เทคนิคการใช้กาวสำหรับงานหนังแต่ละประเภท

ในทุกๆขั้นตอนของงานหนังทำมือ วัสดุที่สำคัญและขาดไปไม่ได้เลย คือ “กาว”

ก่อนที่เราจะตอกรูเย็บ เราต้องทำการประกบชิ้นงานก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ชิ้นงานแนบสนิท และผสานเข้าด้วยกัน ก่อนจะถูกเย็บด้วยเข็มและด้ายเพิ่มความคงทนแข็งแรง และความสวยงามอีกครั้้งนึง

ตัวอย่างกาวขาวและกาวยาง พร้อมอุปกรณ์ปาดกาว สำหรับใช้ในงานหนัง

กาวที่นิยมใช้สำหรับงานหนัง

กาวที่นิยมใช้สำหรับงานหนังมีอยู่ 2 แบบ แตกต่างกันในเรื่องของกลิ่น และลักษณะการใช้งาน ดังนี้

1. กาวขาว

เป็นกาวสีขาวคล้ายกาวลาเท็กซ์ ถ้าถามว่าใช้กาวลาเท็กซ์แทนได้ไหม ผมขอตอบว่า “ได้นะ” แต่ไม่ดีเท่ากับการใช้กาวขาวที่ผลิตมาเพื่องานหนังโดยเฉพาะ เพราะกาวที่ผลิตมาสำหรับงานหนังโดยเฉพาะ ผมมีความรู้สึกว่ามันยึดติดแน่นได้ดีกว่า และแห้งเร็วกว่ากาวลาเท็กซ์ เหมือนมีส่วนผสมอะไรบางอย่างที่กาวลาเท็กซ์ไม่มี

กาวขาวสำหรับใช้กับงานหนังโดยเฉพาะ (ขวดซ้ายคือกาวขาวอิตาลี, ขวดขวาคือกาวขาวที่ผลิตในประเทศจีน)

กาวขาวเหมาะกับการใช้งานแบบไหน?

ด้วยความที่กาวขาวมีความเหนียวพอสมควรและแห้งเร็ว ดังนั้นจึงเหมาะกับชิ้นงานเล็กๆ พื้นที่ทาน้อยๆ เช่น ชิ้นงานทำพวงกุญแจ หรือกระเป๋าสตางค์ใบเล็ก เพราะถ้าเป็นชิ้นงานใหญ่ๆ กว่าเราจะทากาวให้ทั่วพื้นที่ กาวก็แห้งแล้ว ทาไม่ทันครับ

นอกเหนือไปจากนี้ กาวขาวยังมีคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่ง คือ เมื่อเราประกอบชิ้นงานเข้าหากันแล้ว เราจะขยับเขยื้อนตำแหน่งของมันได้ยาก เพราะฉะนั้นจึงเหมาะกับลักษณะงานที่ติดลงไปแล้วเราจะไม่ขยับเพื่อจัดตำแหน่งมัน เพราะมันจะทำให้หนังบริเวณนั้นเสียหายได้

ข้อดีของกาวขาว

  • กลิ่นไม่ฉุน ดีต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ
  • ติดแน่น ทาง่าย
  • เก็บรักษาได้ง่ายกว่ากาวยาง

ข้อเสียของกาวขาว

  • แห้งเร็ว จึงเหมาะกับชิ้นงานเล็กๆ และชิ้นงานที่ไม่ต้องการปรับจัดตำแหน่งในภายหลัง
  • อาจทิ้งคราบขาวไว้ ถ้าไม่รีบเช็ดส่วนเกินออกหลังประกบชิ้นงานแล้ว หรือในกรณีที่กาวเปื้อนหนังในส่วนอื่นๆ ก็อาจทิ้งรอยไว้จนลบไม่ออก (ต้องใช้ความระมัดระวังในระหว่างการทากาวขาว)
  • ราคาแพงกว่ากาวยาง และหาซื้อได้ยากกว่า

2.กาวยาง

กาวยางเป็นกาวที่หาซื้อได้ง่าย ทำจากยางพาราและมีกลิ่นฉุน เป็นกาวที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะนอกจากจะใช้กับงานหนังได้แล้ว ยังใช้กับงานอื่นๆได้อีกมากมาย เช่น งานไม้, งานพลาสติก, งานหนังเทียม (เช่นหนังพียู, พีวีซี) เป็นต้น

ตัวอย่างกาวยางที่ใช้สำหรับทำงานหนัง

กาวยางเหมาะกับการใช้งานแบบไหน?

เนื่องจากกาวยาง จะเสมือนมีความยืดหยุ่นในตัวของมันเองและมีคุณสมบัติแห้งช้า จึงเหมาะกับชิ้นงานขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ๆต้องทาเยอะ เพราะเราสามารถทากาวยางทิ้งไว้จนทั่วชิ้นงานได้โดยที่กาวยังไม่แห้งดีนัก

หลังทากาวทั่วชิ้นงานแล้ว เราก็ยังสามารถขยับหรือจัดตำแหน่งของชิ้นงานได้อีกเล็กน้อย เนื่องจากคุณสมบัติคล้ายยางพารา ที่มีความยืดหยุ่นในตัว จึงอำนวยความสะดวกให้เรามีเวลาในการสำรวจตำแหน่งชิ้นงานให้ตรงและแนบสนิทกันมากกว่ากาวขาว

ข้อดีของกาวยาง

  • แห้งช้า เหมาะกับชิ้นงานใหญ่ๆเพราะทาได้ทั่วพื้นที่ และยังสามารถจัดตำแหน่งชิ้นงานเพื่อให้ตรงกันตามที่ต้องการได้อีกหลังทากาวเสร็จแล้ว
  • คราบกาวใช้ก้อนยางพาราขัดออกได้ กรณีที่เปื้อนส่วนอื่นๆ ก็สามารถใช้ก้อนยางพาราลบขัดออกได้เช่นกัน
  • ราคาถูก หาซื้อได้ทั่วไป

ข้อเสียของกาวยาง

  • มีกลิ่นเหม็น และส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ อันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว จึงควรใช้ในที่โล่งแจ้ง อากาศถ่ายเท
  • เก็บรักษายากกว่ากาวขาว จำเป็นที่จะต้องเก็บในภาชนะบรรจุที่เป็นเหล็ก ไม่สามารถเทแบ่งออกมาใช้ในขวดเล็กๆเหมือนกาวขาวได้

อุปกรณ์ในการทากาว

ทั้งกาวขาวและกาวยาง สำหรับงานหนังจะใช้อุปกรณ์ คือ ไม้ปาดกาว ที่ทำจากพลาสติก โดยมีหลายขนาดให้เลือกซื้อ ทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ ซึ่งแนะนำว่าควรมีอย่างน้อย 2 ไซส์ เพราะว่ามันเหมาะกับพื้นที่ทำงานที่ต่างกัน

ไม้ทากาว, ไม้ปาดกาวขนาดเล็ก

เล็ก – ใช้ทาพื้นที่เล็กๆ เพื่อระวังไม่ให้กาวล้นออกมา

ใหญ่ – ใช้ทาพื้นที่ใหญ่ๆ เพื่อให้กาวไม่แห้งก่อนทาเสร็จ และประหยัดเวลาการทา

วิธีการดูแลรักษาไม้ทากาว เนื่องจากมันทำจากพลาสติก ดังนั้นเมื่อกาวขาวและกาวยางแห้ง เราสามารถลอกมันออกได้ตลอดเวลา

ดังนั้น ก่อนเริ่มผลิตชิ้นงานทุกครั้ง อยากให้ลอกกาวออกจากไม้ก่อน เพื่อไม่ให้ชิ้นงานสกปรกและเป็นการขจัดเอาคราบกาวเก่าๆ ไม่ให้ปนเปื้อนลงไปกับชิ้นงานของเราครับ

มีความสุขกับการทำหนังนะครับทุกท่าน 🙂

Author: TMLeatherFriend