วิธีปอกหนังให้บางลง เพื่อลดความหนา เพิ่มความสวยงามให้กับชิ้นงาน

หนังวัวที่เราซื้อมานั้นมีความหนาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของหนังและร้านที่เราซื้อในแต่ละร้าน ว่าได้หนังมาที่ความหนาเท่าไหร่

ในการผลิตชิ้นงานด้วยหนังวัวแท้นั้น ความหนาของหนังเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก เพราะหนังที่มีความหนาแตกต่างกันก็ใช้สำหรับชิ้นงานที่ไม่เหมือนกัน.. หนังที่มีความหนามากๆ เหมาะกับชิ้นงานที่ต้องการความคงทน ไม่ต้องไปประกอบการเย็บที่ยุ่งยากมากเท่าไหร่ เช่น เข็มขัด ที่ยิ่งหนาก็ยิ่งสวย และแข็งแรง

ส่วนหนังที่มีความบางมากๆ และมีลักษณะไม่คงรูป ก็เหมาะกับการนำไปทำซับในกระเป๋า หรือนำไปทำกระเป๋าสะพาย กระเป๋าสตางค์ เพื่อทำให้ชิ้นงานไม่ดูเทอะทะ และน้ำหนักเบา เหมาะกับการใช้งาน

แล้วถ้าเราซื้อหนังมาแล้วมันหนามากไปล่ะ?

ในบางครั้งหนังที่เรามี มันหนามากกว่าที่เราต้องการ เราสามารถใช้ตัวปอกหนังเพื่อลดความหนาลงได้ครับ ซึ่งอุปกรณ์ในการปอกหนังมีหลายแบบ ทั้งแบบมีดและแบบเครื่องจักร แต่ถ้าเป็นแบบเครื่องจักรนั้นจะมีราคาแพง (หลักหมื่น) แล้วแต่ขนาดและแบรนด์ของเครื่อง แต่ถ้าเราใช้บ่อย ต้องการทุ่นแรงและลดเวลาทำงาน การใช้เครื่องจักรก็ตอบโจทย์ครับ แต่สำหรับในบทความนี้ผมจะมาแชร์วิธีการปอกหนังด้วยมีดและมือ

อุปกรณ์ที่ใช้ในการปอกหนังให้บางลง

  1. มีดปอกหนัง (Leather Skiving Knife)
  2. CMC หรือ GUM สำหรับการเก็บท้องหนัง
  3. ไม้ปาดกาว
  4. กระจกขัดท้องหนัง

ขั้นตอนการปอกหนังให้บางลง

ไม่มีเทคนิคอะไรซับซ้อนเลยครับ แค่เราใช้มีดปอกหนังกดลงไปที่ท้องหนังทีละนิด ตัวใบมีดจะกินท้องหนังทีละนิดๆ คล้ายกับเวลาเราปอกมะม่วง

เราก็ทำแบบนี้จนทั่วชิ้นหนัง อาจจะใช้แรงเยอะหน่อยและอาจจะต้องทำหลายๆรอบ จนกว่าความหนาของหนังจะบางลงเท่าที่ต้องการและมีน้ำหนักเบาขึ้น

คำเตือน: พยายามใส่หน้ากากระหว่างปอกหนังนะครับ เพราะฝุ่นหนังอันตรายกับระบบทางเดินหายใจ ผมใช้เครื่องดูดฝุ่นหมั่นดูดเศษหนังในแต่ละรอบที่ปอกเลย เพราะป้องกันฝุ่นหนังฟุ้งกระจาย เลยอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆช่างหนังซื้อที่ดูดฝุ่นอันเล็กๆติดไว้บนโต๊ะทำงานเลย เพราะระยะยาวคุ้มค่ากับร่างกายเราครับ

หรือถ้าไม่มีเครื่องดูดฝุ่นจริงๆ ก็อยากจะให้ทำงานในที่ๆมีอากาศถ่ายเท และหมั่นทำความสะอาดโต๊ะทำงานบ่อยๆ ไม่ให้เศษหนังฟุ้งกระจายจนเป็นอันตรายกับตัวเรา

เทคนิคแนะนำ: ผมมักจะปอกหนังก่อนตัดชิ้นงานจริง เพราะเวลาเราใช้มีดปอกหนังบางทีก็ใช้แรงเยอะ จนมันเผลอไปดึงชิ้นหนังให้ยืดออก ถ้าเราตัดหนังตามแบบทิ้งไว้แล้วค่อยปอก มันจะทำให้หนังชิ้นนั้นไม่ตรงตามแบบที่เราตัดไว้ครับ อาจจะเสียรูป เพราะฉะนั้นปอกก่อนค่อยตัดดีกว่านะครับ

ต่อไปหลังจากที่เราปอกหนัง และตัดชิ้นงานตามแบบแล้ว ท้องหนังหลังจากเราใช้มีดปอก มันจะหลุดลุ่ยพอสมควร และก็อาจมีเศษหนังหล่นลงมาเรื่อยๆ ถ้าเราใช้หนังนี้ไปทำกระเป๋าสตางค์ เวลาหยิบเงินหรือหยิบบัตรออกจากกระเป๋า พวกฝุ่นนี้ก็อาจจะติดบัตรหรือเงินไปด้วยคงจะไม่ดีเท่าไหร่

ท้องหนังหลังการปอกบาง (หลุดรุ่ยและมีเศษฝุ่นหนัง)

ดังนั้นเราก็ควรจะเก็บท้องหนังให้เรียบด้วย CMC หรือ GUM หลังปอกหนังเสร็จแล้ว

อ่านวิธีการเก็บท้องหนังด้วยCMC < ได้ที่บทความนี้เลยครับ

คำถามต่อไป คือ

ถ้าเราไม่ปอกหนัง แต่ใช้หนังหนาๆแบบนั้นไปเลย มันจะเป็นอะไรไหม?

คำตอบ คือ มันก็ไม่เป็นไรหรอกครับ มันก็ผลิตออกมาเป็นชิ้นงานได้เหมือนกัน

แต่ !!! ความสวยงามมันผิดกัน แถมบางทีการใช้งานก็ลำบากกว่าด้วย

หนังที่ผ่านการปอกบาง ทำให้ชิ้นงานมีความเบาและสวยงามมากขึ้น

เพราะหนังที่หนากว่ามันมาพร้อมความเทอะทะ และน้ำหนักเยอะ ลำพังตัวกระเป๋าก็หนักแล้ว ถ้าเราใส่ของเข้าไปอีกคงเพิ่มภาระให้กับชีวิตแน่เลย

ดังนั้น เพื่อชีวิตที่ดีกว่าและความสวยงามแบบเนี้ยบสุดๆ ปอกหนังเถอะครับ!! สุดท้ายความคุ้มค่าในการลงทุนลงแรงนี้ก็จะส่งถึงมือลูกค้าแน่นอน

ขอให้มีความสุขกับการทำหนังนะครับ 🙂

Author: TMLeatherFriend