เทคนิคการสานและทอหนัง (Leather woven) เพิ่มความสวยงามและมูลค่าให้ชิ้นงาน พร้อมขจัดเศษหนังเหลือใช้

ในระยะหลังๆ มีหลากหลายแบรนด์ที่ใช้การสานและทอหนัง (Leather Woven) เข้ามาเป็นจุดขายให้กับงานกระเป๋าหนังวัวแท้

ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็กหรือแบรนด์ใหญ่ระดับโลก ต่างใช้เทคนิคนี้เพิ่มความสวยงามให้กับสินค้า ทำให้หนังแท้ราบเรียบธรรมดามีพื้นผิว (texture) สัมผัสที่น่าสนใจ แถมยังชูจุดขายเพื่อเป็นวิถีทางการใช้วัสดุเหลือใช้ได้อย่างรู้คุณค่าในรูปแบบหนึ่งอีกด้วย

จุดขายนี้ ถูกใช้ที่แบรนด์ LOEWE (โล-เอ-เว่)

ตัวอย่างสินค้าที่ใช้เทคนิคการสอนหรือทอหนัง (Leather Moven) จากแบรนด์ LOEWE (โลเอเว่) | credit: harpersbazaar.com

สำหรับงานหนังวัวแท้นั้น ช่างหนังจะรู้กันดีว่าหนังมีราคาแพง และหนัง 1 ตัวก็จะมีเศษที่เกิดจากการตัดเพื่อนำไปผลิตสินค้าต่างๆ ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ก็ตาม

LOEWE (โล-เอ-เว่) แบรนด์หรู สัญชาติสเปน ผู้เลื่องชื่อจากการผลิตกระเป๋าหนังให้กับชนชั้นสูงมาเป็นร้อยปี ได้หยิบเอาหนังวัวแท้หลากสีที่เหลือจากการผลิตสินค้าใน collection เก่าๆที่ผ่านมาของพวกเค้า นำมาใช้สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และแน่นอนว่าเป็นงานทำมือ หรืองานแฮนด์เมด 100%  ด้วยแนวคิดที่ยังคงยืนหยัดอยู่เสมอว่าจะใช้วัสดุเหล่านี้อย่างรู้คุณค่า และนำเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด (sustainable)

หนังวัวแท้หลากสี หลากพิ้นผิว (texture) ทั้งผิวเรียบและผิวปั่น (เป็นลายต่างๆ) ถูกนำมาถักทอกันตามการจัดวางของดีไซน์เนอร์ อาจดูง่าย แต่ก็ไม่ง่ายเกินไปนัก เพราะจะต้องมีการออกแบบคู่สี รวมถึงการจบชิ้นงานได้อย่างสวยงาม นอกเหนือจากนี้ก็จะต้องมีการสานหรือทอแบบเว้นช่องว่างให้หนังได้มีช่องระหว่างเส้น เพื่อเกิดการยืดหยุ่นในการใช้งาน และมีความสวยงามมากกว่าการทอจนแน่นเบียดกันไปทั้งใบ

จากแนวคิดในการนำหนังวัวเหลือใช้มาผลิต นั่นยิ่งทำให้กระเป๋าแต่ละใบที่ใช้เทคนิคนี้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นกระเป๋าที่เป็นชิ้นเดียวในโลก และเป็นผลงานชิ้นเอกของดีไซน์เนอร์ที่จะต้องออกแบบการจัดวางคู่สี และพื้นผิวที่แตกต่างกันของกระเป๋าแบบไม่ซ้ำกันเลยสักใบ และนั่นคือช่องทางในการเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงาน ในแนวคิดที่ดีกับแบรนด์ เพราะสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า “เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าจริงๆ”

การใช้เทคนิคสานและทอหนัง สามารถใช้กับงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะงานชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ ตั้งแต่กระเป๋าสตางค์, พวงกุญแจ, รองเท้า ไปจนกระทั่งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แม้กระทั่งโซฟา

เท่าที่ผมเคยเห็นในประเทศไทยสักระยะ จะนิยมใช้กับกระเป๋าสตางค์เสียเยอะ หลายแบรนด์ใช้เทคนิคนี้เข้าไปเพิ่มความสวยงามให้กับกระเป๋าค่อนข้างมาก และใช่ครับ .. ได้รับความนิยมเสียด้วย เพราะมันทำให้รู้สึกว่า “มันมีอะไร” มากกว่าหนังวัวแท้ราบๆเรียบๆ แบบที่มีขายกันอยู่ทั่วไป ยิ่งใช้คำว่า “สานมือ” ด้วยแล้ว .. ยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันเป็นของที่ได้มาจากงานทำมือ ทำให้เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้มากขึ้นไปอีก

ส่วนวิธีการสานหรือทอไม่ยากอะไรครับสำหรับลายตารางง่ายๆ เหมือนเราทอแผ่นจักสานสมัยเด็กปกติเลย คือมีเส้นยืนสับหว่าง แล้วสอดหนังที่ตัดเป็นเส้นๆไว้สลับช่องเว้นช่อง แค่นั้นก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าผมมีโอกาสได้ทำ เดี๋ยวจะเขียนบทความสอนให้อย่างละเอียดอีกครั้งนะครับ

มีความสุขกับงานหนังนะครับทุกคน 🙂

Author: TMLeatherFriend