06 จบชิ้นงานด้วยการบำรุงหนังให้สวยงาม และยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น

ก่อนที่จะนำชิ้นงานที่เราทำขึ้นมาไปใช้ หรือส่งมอบชิ้นงานถึงมือลูกค้า เราต้องไม่ลืมจบกระบวนการด้วยการทำความสะอาดหนังและใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงหนังก่อน เพราะไม่ใช่เพียงแค่ผลทางด้านความสวยงาม แต่ยังสามารถยืดอายุการใช้งานของหนังให้นานขึ้นได้อีกด้วย

อุปกรณ์ที่ใช้ในการบำรุงหนัง

อุปกรณ์ที่ใช้ในการบำรุงหนัง ขั้นตอนสุดท้ายก่อนจบชิ้นงาน
  • มิงค์ออย(Mink Oil) หรือไขปลาวาฬ (Dubbin) (มีอธิบายคุณสมบัติและความแตกต่างให้ดูด้านล่าง)
  • แปรงขนม้า

ความแตกต่างของมิงค์ออย (Mink oil) และไขปลาวาฬ (Dubbin)

มิงค์ออย (Mink Oil) และไขปลาวาฬ (Dubbin)

มิงค์ออย (Mink Oil) ในอดีตตั้งแต่โบราณได้มาจากน้ำมันตัวมิงค์จริงๆ แต่พอผ่านยุคสมัยมาแล้วก็ถูกพัฒนาเป็นสารเคมีประเภทหนึ่ง ที่ให้ความชุ่มชื้นและเงางามบนหนังวัวได้ ส่วนไขปลาวาฬ (Dubbin) ก็ใช้สารเคมีตั้งต้นประเภทเดียวกับมิงค์ออย อาจมีแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของมิงค์ออย และไขปลาวาฬ คือ ถ้าใช้ไขปลาวาฬหนังจะสีเข้มขึ้นมากกว่าการใช้มิงค์ออย

ทั้งมิงค์ออยและไขปลาวาฬ เหมาะกับหนังที่ไม่ผ่านการเคลือบ เช่น หนังหนังฟอกฝาด หนังเครซีฮอร์ส ฯลฯ แต่ถ้าเป็นหนังที่ผ่านการเคลือบ วาว มันขึ้นมาบนผิวหน้าแล้วไม่เหมาะที่จะใช้ เพราะมันจะไม่ซึมลงบนหนังกลายเป็นคราบ และทิ้งรอยเหนียวเหนอะหนะเอาไว้แทน จึงไม่ควรใช้กับหนังที่ผ่านการเคลือบ เช่น หนังแก้ว, หนังนิ่มบางประเภท ฯลฯ ก่อนใช้น้ำมันทั้งสองประเภทนี้ จึงควรทดสอบกับเศษหนังที่ติดมากับตัวสินค้าทุกครั้ง

ตามปกติ สินค้าหนังวัวมักมีเศษหนังชิ้นเล็กๆแนบมา เพื่อให้เราเห็นว่าเค้าใช้หนังวัวแท้ประเภทไหนในการทำสินค้าแต่ละชิ้น ซึ่งเราสามารถเก็บเศษหนังนี้ไว้ เพื่อใช้ทดสอบครีมบำรุงได้ในอนาคต จะได้ไม่เสียไปทั้งใบถ้าใช้น้ำมันหรือครีมบำรุงผิดประเภท

โดยทั่วไป Mink oil มักมีราคาแพงกว่าไขปลาวาฬอยู่มาก โดยเฉพาะแบรนด์ญี่ปุ่นที่ผมใช้ในบทความนี้ ความแตกต่างที่ผมรู้สึกเองระหว่างมิงค์ออย และไขปลาวาฬ นอกจากสีที่แตกต่างกันแล้ว ยังเป็นเรื่องของความชุ่มชื้นที่ได้ด้วย คือ มิงค์ออยให้ความชุ่มชื้นที่ซึมลึกกว่าไขปลาวาฬโดยไม่ทิ้งคราบมันไว้ที่หนัง สัมผัสของหนังหลังจากลงมิงค์ออยแล้วจะไม่เปลี่ยนไป ไม่เหมือนกับไขปลาวาฬที่บางครั้งจับดูแล้วจะรู้สึกชุ่ม มัน ซึ่งบางคนอาจจะชอบ แต่บางคนก็อาจไม่ชอบ

ดังนั้น ก่อนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไหน อยากให้ตัดสินใจดีๆครับ ถ้าไม่อยากให้สีเข้มหรือเปลี่ยนไปมาก แนะนำให้ใช้มิงค์ออย แต่ถ้าต้องการคุมราคา ไม่อยากเสียเงินแพงจนเกินไป ใช้เป็นไขปลาวาฬก็ได้ เพราะให้เลือกซื้อหลายแบรนด์หลายราคาเลย

ขั้นตอนในการบำรุงหนัง

  1. ใช้แปรงขนม้าปัดสิ่งสกปรกที่อยู่บนหนังออก เช่น ฝุ่น เศษหนัง เป็นต้น วิธีปัดให้วนๆเป็นวงกลม หรือปัดไปทางเดียวกันก็ได้
  2. นำนิ้วมือหรือผ้าสะอาดแตะที่มิงค์ออย หรือไขปลาวาฬเล็กน้อย (ย้ำว่าเล็กน้อย) แล้วทาที่ชิ้นงาน
  3. ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที รอจนน้ำมันซึมลงไปในผิว
  4. ใช้แปรงขนม้าขัดวนๆจนทั่วชิ้นงาน เป็นอันจบกระบวนการ

Author: TMLeatherFriend